Fri. May 17th, 2024

ย้อนกลับไปสมัยที่บริษัท PKCD ถูกสร้างขึ้นมานั้น หนึ่งในหลายๆ BU หรือที่เรียกกันเต็มๆว่า business unit ที่ถูกก่อตั้งมาพร้อมกับบริษัทคงหนีไม่พ้นการตั้งธงเพื่อจะจัดทำ platform  ท่องเที่ยวที่มีความสามารถในการจองโรงแรม ทั่วและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดได้ โดยเพื่อหวังว่าจะดึงรายได้ที่ทางผู้ประกอบการท้องถิ่นต้องเสียให้กับ OTA platform กลับมาให้เจ้าสู่ในระบบ

 

ช่วงแรกของการก่อตั้ง การทำ fesibilty ตัวเลขการทำกำไรออกมาอย่างสวยงามด้วย fuction และ timeline ที่ล้วนดูแล้วจะเป็น BU ระดับโลกที่สามารถจะทำรายได้เข้าบริษัทอย่างมหาศาล ด้วยกำหนดการเริ่ม develop จนถึงเริ่มใช้งานภายใน 6 เดือน #นั้นคือสิ่งที่ควรจะเป็น เวลาผ่านไปล่วงเลยจนจะครบปี  BU นี้ที่ถูกวาดฝันว่าจะเป็น BU ที่สามารถเริ่มทำเงินได้เป็น BU แรกๆ กลับไม่มี Product หรือสินค้าที่ชัดเจน จน MD และ ทีม PKCD ต้องลงไปช่วย implement งานจนเกิดเป็นรูปเป็นร่างที่สามารถจองทัวร์ และ โรงแรมได้

 

แต่ตัวเลขการ performace ของบริษัท BU6 ยังไม่ถือว่าหากไกลจากเป้าแบบไม่น่าเป็นไปได้ด้วยตัวเลข booking ตั้งแต่เปิดมายังไม่ถึง 10,000 บาท ซึ่งหากเป็น star-up ทั่วไปที่ไม่ได้มีผู้ถือหุ้นหรือ runing cost สูงถึงเดือนล่ะเกือบ 1 ล้านบาท ธุรกิจนี้ก็น่าจะเป็นธุรกิจที่น่าลองวัดใจดูกันสักรอบว่าจะรุ่ง หรือจะร่วง

 

แต่ด้วยความว่าธุรกิจ BU6 นี้เป็น BU ที่มีการลงทุนไปแล้วนับหลัก 10 ล้านบาท คำถามที่ผู้ถือหุ้นทุกคนต้องการรู้จึงยังเกิดเป็นคำถามว่า ควรไปต่อ หรือ จะหยุดแค่นี้เนื่องจากลักษณะธุรกิจและการทำกำไรที่ค่อยข้าง underperform อย่างไม่น่าเป็นไปได้

 

จากการที่ได้มีโอกาศลงไป investigate ถึงปัญหาภายในแล้วนั้นจะพบว่าปัญหาหลักๆ สามารถ แบ่งได้เป็น

  1. ตัวผู้นำ :  ธุรกิจ start up นั้นหลายๆ ครั้งแล้วการได้ผู้นำที่มีความรู้จริงเรื่องอุตสาหกรมมาเป็นหัวเรือในการนำทีมจะช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายและทิศทางบริษัทได้อย่างชัดเจน แต่ในสถานการณ์นี้แล้วนั้น ทางผู้นำ ของกลุ่มธุรกิจกลับไม่ได้มีความรู้ทางด้านอุตสหกรรม และไม่มีความรู้ทางด้านการ devlopment ทำให้ไม่สามารถกำหนด Requirement ให้ทีมอื่นๆทำงานได้
  2. Proof of Concept :  คำว่า Proof of concept หรือ POC นั้นอาจเป็นคำที่ไม่ค่อยได้ยินในอุตสหกรรม SME มากเท่าไรแต่หากเป็นในกลุ่ม ธุรกิจ Start up แล้วนั้นคำว่า POC เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถชี้ชะตา Project เหล่านั้นได้เลย เพราะการทำ POC เป็นการทำ Project โดย Scale Down เพื่อทดลองแนวความคิดและการตอบรับของลูกค้า ซึ่งใน Case ของ BU6 แล้วนั้น ไม่ได้มีการ conduct POC มาก่อนทำให้การทำ forecast ยอดผิดไปจากความเป็นไปได้จริงอย่างมหาศาล และ อีกสาเหตุที่การทำธุรกิจในทุกๆครั้งควรทำ POC เนื่องจากเป็นการประหยัด Cost และ fail cost ให้ต่ำลงอีกด้วยทางหนึ่ง
  3. SEO : หากเอ๋ยถึงช่องทางหรือเว็บไซค์ที่คนใช้เยอะสุดบนโลกแล้วนั้น เชื่อได้เลยว่า Search engine ต้องมีติดอันดับ TOP 3 แน่นอน ซึ่งการทำ SEO คือการทำให้เว็บไซค์ และ content ของบริษัทสามารถ Searchable บน Search enging เพื่อประหยัด cost ในการทำ cost per acquisition เนื่องจากไม่ต้องมีการจ่ายงบทางการตลาด แต่ใน case ของ BU6 แล้วนั้นด้วยเหตุผลบ้างประการเว็บไซค์ถูกออกแบบมาไม่ได้มีโครงสร้างทาง coding ที่รองรับการ index ของทาง search engine ทำให้ตัวเว็บไซค์ถึงแม้จะเปิดมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปี มี index บน google เพียง 5 – 10 หน้าเท่านั้น
  4. Development team :  ในทุก start up แล้วนั้นซึ่งที่ทำให้ start up จะ success ได้นั้น development team ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สามารถจะช่วยให้ระยะเวลา การทำงานของทีม traditional openration ที่ได้จากการทำ POC ลดน้อยลง เพื่อให้ตัว start up สามารถ scale ได้ ใน Case ของ BU6 นั้น ด้วยประสบการณ์และการไม่ได้กำหนดเป้าหมายหรือ flow งานที่ชัดเจนทำให้ ทีม tech ไม่รู้ทิศทางและต้องมากำหนด หรือคาดการณ์ flow งานเองซึ่งส่งผลให้เป็นการสร้างความซับซ้อนในการทำงาน
  5. Marketing team :  ธุรกิจการท่องเที่ยวหรือเน้นขาย content นั้นส่วนใหญ่แล้วการทำการตลาดให้คนรับรู้ถือเป็นเรื่องสำคัญและมองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องผ่านช่องทางที่จะสร้างควมรับรู้และการจดจำให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าต้องกลับมา check  เนื้อหาใหม่ๆทุกวัน ในส่วนของ BU6 นั้น ถึงแม้ว่าการทำ marketing ด้วย SEO จะเป็นเรื่องที่ยากและไม่สามารถทำได้เนื้อจากปัญหาทางด้าน coding แต่การทำการตลาดโดยมุ่งเน้นไปที่ offline และ spending สูงเกินไปอาจทำให้ผลการตอบกลับอาจไม่ได้สวยเหมือนตัวเลข spending เนื่องจาก พฤติกรรมจองนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่ยังเน้น physical contact มองกว่า จะเป็น fully offline
  6. Operation team :  ทุก Star-up หากมีแค่ idea และ CEO คนเดียวแล้วนั้นน้อยมากที่จะมีโอกาศประสบความสำเร็จได้ ทุก Start up ควรให้คุ้นค่าของคน และ Put the Right man on the Right Job เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพงานสูงสุกแก่ตัวบริษัท

หากมองจากบุคคลที่สามที่ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจตัว direction ของ BU นี้แล้วนั้นส่วนตัวผมมองว่าทางบริษัทควรหยุดหรือตัดขายบริษัทเพื่อเอาเงินที่ได้ กลับไปลองทำ Proof of concept ใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อดูว่าธุรกิจรับจองทัวร์หรือเป็นตัวกลางการจองทัวร์แล้วนั้นสามารถมีรายมากพอหรือไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แผ่นธุรกิจที่ focus เฉพาะในไม่กี่จังหวัด ซึ่งแตกต่างจาก Global Brand ที่มีความพร้อมทั้งในด้าน economy of scale และ งบทางการเงิน

BU นี้จะจบอย่างไรต้องรอติดตามกันต่อไป

By prempcc