ว่าด้วยเรื่อง Uniqlo 2018
*งบการเงิน Uniqlo 2018 ปิดงบ 31 สิงหาคม 2018
Uniqlo ชื่อนี้คงเป็นชื่อที่วัยรุ่นใหม่หรือคนวัยทำงานชาวไทยน่าจะคุ้นเคยที่สุดด้วยสาขาในประเทศมากถึง 45 สาขา เฉพาะในประเทศไทย และมีสาขามากถึง 2,068 สาขา ใน 21 ประเทศ
Uniqlo ถูกเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1949 ด้วยชื่อ “Ogori Shōji” ที่ประเทศญี่ปุ่นจากการเป็นร้านขายเสื้อผ้าชาย และในปี 1984 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นใหม่เป็น “Unique Clothing Warehouse” และได้มีการเพี้ยนเสียงมาเป็น “uni-clo” แต่เนื่องด้วยในปี 1988 ระหว่างการจด brand ในประเทศ Hong Kong พนักงานเกิดสะกดชื่อผิดจาก “c” ไปเป็น “q” ทำให้ชื่อ Uniqlo เกิดขึ้น #ก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะชื่อ google ก็เกิดจากการสะกดผิด
ปี 2018 นั้นถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ Uniqlo เปิดขยายสู่ภายนอกประเทศที่รายได้ของ Uniqlo International ด้วยรายได้ในประเทศ ญี่ปุ่น 864.7 พันล้านเยน เมือเทียบกับรายได้จาก international ที่ 896.3 พันล้านเยน
ซึ่งหากแบ่งร้านได้บริษัทออกเป็น Segment ตามประเทศแล้วนั้นมีตัวเลขที่น่าสนใจคือ
ยุโรป: 90 พันล้านเยน
จีน: 440 พันล้านเยน
เกาหลีใต้: 140 พันล้านเยน
Southeast Asia: 140 พันล้านเยน
ทวีปอเมริกา: 90 พันล้านเยน
แต่หนึ่งในตัวเลข และ Mission ที่น่าสนใจคือการ focus ทำ ให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าผ่านช่องทาง E-commerce ซึ่งจากตัวเลขปี 2018 ยอดที่น่าสนใจคือยอดตัวเลขการใช้ผ่านช่องทาง E-commerce ซึ่ง Top 3 ตลาดที่มีการซื้อผ่าน Online คือ
US: 20%
China: 15%
Europe: 10%
ในปี 2018 Uniqlo ได้ทดลองการให้บริการแบบ Online to offline สำหรับประเทศจีนซึ่งเป็นบริการที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทาง Online และ มารับเสื้อผ้าที่ร้านของ Uniqlo หรือสามารถมารับเสื้อผ้าเข้าไปทดลองได้เลย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินหาเสื้อผ้าซึ่งก็ถือเป็นกลยุทธ์ ที่น่าสนใจไม่น้อย กับการใช้วิธี online to offline ที่ Uniqlo เลือกใช้เพื่อให้เกิดประสบการณ์การ Shopping ใหม่ ๆ
ซึ่งหนึ่งใน Success factors. ที่ทำให้ Uniqlo แข็งแกร่งมาได้ถึงขนาดนี้คือ
Secure Cost-effective: ต้นทุนคือสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ Uniqlo ทีมเริ่มกระบวนการค้นหาและลดต้นทุนสินค้าตั้งแต่กระบวนการค้นหาวัตถุดิบและทำสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งทำให้ต้นทุนของ Uniqlo ต่ำ ลงไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่น
New Functional Materials: บริษัท focus ในการนำผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นการ R&D ในบริษัทหรือแม้แต่การร่วมมือกับโรงงาน ซึ่งหนึ่งในสินค้า Signature ของ Uniqlo คือ HEATTECH ที่ใส่แล้วอุณหภูมิร่างกายไม่ swing ตามอุณหภูมิภา นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า BLOCKTECH ที่เป็นเสื้อกันลม ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยสร้าง Demand ใหม่ๆ ขึ้นมา
Simple, Elegant, Quality Clothing: คือหนึ่งใน concept ที่ทำให้ Uniqlo เป็น brand ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด brand หนึ่งซึ่ง concept คือเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้ทุกวัน ซึ่งปัจจุบัน Uniqlo มี product development center กระจายอยู่ทั่วโลกเช่น Tokyo, New York, London เป็นต้น
High Quality: หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ลูกค้าของ Uniqlo กลับมาซื้อสินค้า ทาง Uniqlo มีทีมงานภายในองค์กรค่อนออกไปเช็คคุณภาพสินค้าและทำงานรวมกับ supplier เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้า และ การผลิตให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
Fun, Easy Shopping: Uniqlo focus การมาซื้อสินค้าภายในร้านให้เป็นกิจกรรมที่สนุกกับทั้งครอบครัว ซึ่งการจัดพื้นที่ในร้านนั้นเน้นการจัดพื้นที่ของร้านออกไปเป็นสัดส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและลองเสื้อผ้า
Customer need: ทุก ๆ ความเห็นของลูกค้าที่เกิดขึ้นสำหรับ uniqlo จะถูกส่งต่อไปถึงทีม product development ซึ่งทำให้สินค้าของบริษัทเป็นสินค้าที่ต้องการของตลาด
ซึ่งหากดูจำนวนสาขาที่เป็นของ Uniqlo แล้วนั้นบริษัทได้ทำ forecast ภายใน 2019 ในประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น 827 สาขา และ ในต่างประเทศ 1,407 สาขา
หนึ่งในพื้นที่ที่ Uniqlo ให้ความหวังกับยอดขายมากที่สุดคือ ประเทศจีนซึ่ง Uniqlo ตั้งเป้าหลายได้ในประเทศจีนจะมีมากถึง 1,000 ล้านล้านเยน ซึ่งในปัจจุบันตลาดจีน 440 พันล้านเยน ด้วยจำนวนสาขา 768 สาขา ซึ่ง Uniqlo มีแผนจะขยายสาขาให้ได้ถึง 1,000 สาขาภายในปี 2021
ก็น่าสนใจไม่น้อยกับการเติบโตของ Unqilo ที่มีการวางแผนการเติบโตด้วยการเปิดสาขา และ เพิ่มรายได้ผ่านการขายสินค้า online ซึ่งหากเป็นไปตามแผนงานนี้ Uniqlo จะกลายเป็นบริษัทเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ อย่างแน่นอนและ ได้เข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ประเทศจีน ด้วย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ Uniqlo ไม่ได้มีการพูดถึงคือตลาดในประเทศอินเดียผมก็อย่างรู้เหมือนกันว่าบริษัทมีแนวขึ้นและมุมมองอย่างไร เพราะโดยส่วนตัวแล้วนั้นตลาด ประเทศจีน Uniqlo น่าจะได้เป็นเบอร์ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในตลาดอื่นๆ แล้วนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไปสำหรับ Brand ยักใหญ่ของญี่ปุ่น Brand นี้
อ้างอิง https://www.fastretailing.com/eng/ir/library/pdf/ar2018_en.pdf