Fri. May 23rd, 2025

โจทย์ ล่าสุดของผม นาย ภูเก็จ คงไม่มีอ่ะไรน่าสนใจไปกว่าการที่ ” ต้องการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศไทย” โจทย์นี้เป็นโจทย์ที่ได้รับจากเพื่อนหลังจากที่ ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว พี่ Ching รุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันที่ Singapore ส่ง presentation ของเพื่อนรวมชั้นของเขามาให้ผมดูว่า มีเพื่อนทำโรงไฟฟ้าที่ Indonesia แล้วอยากมาลงทุนโรงไฟฟ้าในไทย  ซึ่งครั้งนั้นผมก็แค่รับมาอ่านและก็ไม่ได้มีการ follow ต่ออ่ะไร

หายไป 2-3 ปีนับตั้งแต่วันนั้น เมื่อได้มาช่วยงาน PKCD ทำให้ได้รับ requirement อันหนึ่งน่าสนใจ คือการจะเปิดเหมือง bitcoin ในประเทศไทยแต่มี condition เรื่องของค่าไฟที่จำเป็นต้องตำ่ในระกับ 2-3 บาทต่อ unit ซึ่งทำให้ผมย้อนกลับไปถึง slide persentation ที่พี้ ching ส่งมาให้ เกี่ยวกับโรงไฟฟ้า และ เหมือนเป็นคร่าวโชคดีที่ ผม พี่ ching และ Rico ที่เป้นเพื่อนของ  พี่ ching มีกำหนดเดินทางไฟรวมงานที่ประเทศ Malaysia พอดีทำให้มีโอกาศได้พบกันและพูดคุยกัน ซึ่งทำให้รู้ว่าค่าไฟ 2-3 บาท ไม่มีทางทำได้ haha

แต่ถึงแม้ค่าไฟ 2-3 บาททำไม่ได้ Rico เองก็ยังคงมีความสนใจที่จะอยากจะมาลงทุนในไทยเพื่อขยายธุรกิจต่อทำให้ผมเองซึ่งอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าอยู่แล้วสนใจที่จะลอง push ดูว่าจะพอทำได้ไหม

กลับมาก็เลยเริ่มทำ Research เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าว่าปัจจุบันว่ามีผู้เล่นรายไหนบ้าง ซึ่งการทำ Research ของผมจะใช้ข้อมูลของ ERC เป็นหลักและ search ว่ามีใครบ้าง โดย requriement หนึ่งที่เป็นโจทย์คือ โรงไฟฟ้าขยะทำให้ สามารถ scope การ search ลงมาได้

ซึ่งตัวเลือกในฐานข้อมูลมีตั้งแต่ รายใหญ่ ที่มีกำหลังการผลิตเป็น 100 – 1000 MW  หรือ เป็นแค่ผู้บริหารโรงไฟฟ้าโรงเดียว ซึ่งตัวเลือกที่ผมเลือกที่จะลองส่ง email เข้าไปเป็นโรงไฟฟ้า หรือผู้ประกอบขนาด 30 – 100 MW จำนวน 2 บริษัท และ อีก 1 บริษัท ขนาด 3 MW แต่มีเทคโนโลยี ที่ ทาง Indonesia กำลัง develop อยู่

ซึ่งทั้งสามบริษัทผมได้ส่ง email ออกไปทั้งสามบริษัทโดยสาระสำคัญในทุก email คือการระบุจุดประสงค์และเป้าหมายของการอยากเข้าพบ ผู้บริหารแต่ละบริษัท และ สิ่งที่เรามีและสามารถทำงานร่วมกันได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการส่ง email อย่างนี้คือการมี company profile ที่สามารถทำให้เราดู professional และ ของจริงไม่ใช่นายหน้าที่ พยายามจับเสือมือเปล่า

สำหรับ Deal นี้จะหลังจากส่ง email ก็มีการ follow up จากบริษัทที่ส่งไปและจัดนัดให้จนผู้บริหารของทั้งสองฝั่งได้พบกัน และ เริ่มพูดคุยกันกับ potential ว่ามีรูปบบไหนบ้าง

ซึ่งหลังจากการ deal รอบนี้แล้วก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมี potential ขนาดไหนเนื่องจากทั้งสองบริษัทก็เป็นบริษัทค่อนข้างใหญ่ทั้งคู่ทำให้อาจต้องลองดูว่า จะมีการลงทุนกันจริงๆไหม แต่สำหรับผมแล้วยังไงก็ยังต้องตามต่อกับ อีก 1 – 2 บริษัท เพื่อลองดูว่าสามารถเพิ่ม potential ได้ขนาดไหนให้กับบริษัทของเพื่อนคนนี้